MAIN POINT
- มาตรการ LTV คือ มาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้ควบคุมความเสี่ยงของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ พร้อมส่งเสริมให้ผู้กู้มีวินัยทางการเงินและรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
- อัปเดตมาตรการ LTV ปีพ.ศ. 2568 สำหรับการกู้ซื้อบ้านและคอนโดที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2569 ทุกราคาและทุกสัญญาสามารถกู้ได้เต็มวงเงิน 100%*
มาตรการ LTV คืออะไร จะซื้อบ้านต้องรู้
มาตรการ LTV เครื่องมือสำคัญที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน และส่งผลต่อการตัดสินใจกู้ซื้อที่อยู่อาศัยของเราโดยตรง AP Thai จะพาไปทำความรู้จักกับมาตรการ LTV ฉบับอัปเดตปี 2568 เงื่อนไขสำคัญที่คนจะซื้อบ้าน-คอนโดต้องรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนทางการเงินและตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
มาตรการ LTV คืออะไร
มาตรการ LTV ย่อมาจาก Loan to Value คือ อัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน เป็นมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยนำมาใช้ควบคุมความเสี่ยงของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ พร้อมส่งเสริมให้ผู้กู้มีวินัยทางการเงินและรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
อัปเดตมาตรการ LTV ปี 2568
1. กู้ซื้อบ้านได้ 100% ทุกราคาและทุกสัญญา
ข่าวดีสำหรับคนที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน-คอนโด เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยปรับปรุงผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2569 ให้การซื้อบ้านและคอนโดทุกราคาและทุกสัญญาสามารถกู้ได้เต็ม 100% ทั้งนี้การอนุมัติวงเงินขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารและความสามารถในการผ่อนชำระของแต่ละบุคคล
| ราคาหลักทรัพย์ |
จำนวนหลักทรัพย์ที่ยังผ่อนชำระอยู่ |
เกณฑ์ LTV แบบเดิม | เกณฑ์ LTV แบบใหม่ |
|
บ้านราคา ไม่เกิน 10 ล้านบาท |
สัญญาหลังที่ 1 |
กู้ได้ 100% (กู้ค่าตกแต่งบ้าน เพิ่มได้ 10%) |
กู้ได้ 100% (กู้ค่าตกแต่งบ้าน เพิ่มได้ 10%) |
| สัญญาหลังที่ 2 |
กู้ได้ 90% (หากผ่อนสัญญาที่ 1 มากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี) |
กู้ได้ 100% | |
| สัญญาหลังที่ 3 ขึ้นไป |
กู้ได้ 80% (หากผ่อนสัญญาที่ 1 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี กู้ได้ 70%) |
กู้ได้ 100% | |
|
บ้านราคา เกิน 10 ล้านบาท |
สัญญาหลังที่ 1 | กู้ได้ 90% | กู้ได้ 100% |
| สัญญาหลังที่ 2 | กู้ได้ 80% | ||
| สัญญาหลังที่ 3 ขึ้นไป | กู้ได้ 70% |
2. ผ่อนปรนมาตรการ LTV สำหรับกู้ร่วม
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปัจจุบันการผ่อนปรนมาตรการ LTV 2568 สำหรับกรณีการกู้ร่วม คือหากผู้กู้ร่วมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ผ่อนปรนเสมือนว่ายังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น ถือว่าเป็นเพียงแค่การช่วยเหลือกันภายในครอบครัว ดังนั้นเมื่อต้องการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยของตนเองก็สามารถทำได้ โดยจะนับว่าเป็นสัญญาแรก เป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสมมากขึ้น
มาตรการ LTV ผ่อนปรน ค่าโอนบ้าน ค่าจดจำนองลดเหลือ 0.01%
ข่าวดีอีกต่อนอกจากจะมีมาตรการผ่อนปรน LTV 2568 แล้วยังลดค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน และค่าจดจำนองอีกด้วย
- ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน ลดจาก 2% เหลือแค่ 0.01%
- ค่าจดจำนอง ลดจาก 1% เหลือเพียง 0.01%
ตัวอย่างค่าธรรมเนียมหากซื้อบ้านราคา 7 ล้านบาท ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 208,600 บาท
| ค่าธรรมเนียม |
จำนวนเงิน (อัตราปกติ) |
จำนวนเงิน (อัตราลดแล้ว) |
| ค่าโอนกรรมสิทธิ์ | 140,000 บาท (2.00%) |
700 บาท (0.01%) |
| ค่าจดจำนอง | 70,000 บาท (1.00%) |
700 บาท (0.01%) |
| รวมทั้งสิ้น | 210,000 บาท | 1,400 บาท |
สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและกระตุ้นความต้องการซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ใครที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน โอกาสดีแบบนี้ห้ามพลาด โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน โอนที่ดินล่าสุด คำนวณยังไง มีค่าอะไรบ้าง?
มาตรการ LTV มีผลกระทบกับใครบ้าง
1. ผู้ซื้อบ้าน-คอนโดเพื่ออยู่อาศัย
สำหรับผู้ที่ซื้อบ้าน-คอนโดเพื่อการอยู่อาศัย ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการ LTV โดยตรง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกในราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท เพราะมักกู้ได้ถึง 100% และอาจได้รับวงเงินค่าตกแต่งบ้านเพิ่มเติมอีก 10% ถือเป็นนโยบายที่เอื้อให้คนมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น ลดภาระการเตรียมเงินดาวน์
2. ผู้ซื้อบ้าน-คอนโดเพื่อการลงทุน
สำหรับผู้ที่ซื้อบ้าน-คอนโดเพื่อการลงทุน มักถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยสัญญาที่สองหรือสามขึ้นไป ทำให้มักต้องเตรียมเงินดาวน์ในสัดส่วนที่สูงขึ้น เช่น 20-30% ของมูลค่าบ้าน ทำให้นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้น อย่างไรก็ตามการผ่อนปรนมาตรการ LTV ในปี 2568 ช่วยให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ลดภาระเงินก้อนเริ่มต้น และเพิ่มโอกาสในการวางแผนลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว
3. เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์
มาตรการ LTV ในปี 2568 ส่งผลเชิงบวกต่อเจ้าของโครงการและผู้ประกอบการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการผ่อนปรนให้คนสามารถกู้ซื้อบ้านทุกระดับราคาได้เต็มจำนวน 100% ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจให้ผู้คนซื้อบ้าน-คอนโดเป็นของตัวเอง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตไปพร้อม ๆ กัน
4. สถาบันการเงิน
การผ่อนปรนมาตรการ LTV ปี 2568 ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยเงินกู้ได้จำนวนมากขึ้น เนื่องจากมีเงื่อนไขที่ดึงดูดใจ ทำให้เกิดความต้องการซื้อมากขึ้น ทั้งนี้การอนุมัติวงเงินขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร รวมถึงประเมินจากความสามารถในการผ่อนชำระของแต่ละบุคคลด้วย
รู้ลึกก่อนมีบ้านเป็นของตัวเอง ด้วยบทความน่ารู้จากเอพี
- อัตราดอกเบี้ยบ้าน สินเชื่อบ้าน-คอนโด ทุกธนาคาร ล่าสุด
- เงินดาวน์บ้าน คืออะไร? ซื้อบ้านต้องดาวน์เท่าไหร่ คำนวณยังไง
- คำนวณผ่อนบ้าน-คำนวณผ่อนคอนโด มือใหม่ซื้อบ้านต้องทำอย่างไร
มาตรการ LTV ฉบับอัปเดต 2568 ให้ทุกการมีบ้านเป็นเรื่องง่าย
มาตรการ LTV ตัวช่วยควบคุมความเสี่ยงของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และส่งเสริมให้ผู้กู้มีวินัยทางการเงินก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้นก่อนจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองจึงควรศึกษาเงื่อนไขให้รอบคอบ เพื่อผลประโยชน์และประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการที่ครบครัน สามารถใช้ โปรแกรมคำนวณผ่อนบ้านจากเอพี เพื่อหาโครงการบ้านที่ใช่พร้อมเช็กยอดสินเชื่อและค่างวดในแต่ละเดือนแบบคร่าว ๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางแผนการเงินในอนาคต และ โปรแกรมเปรียบเทียบโครงการที่อยู่อาศัยจากเอพี ที่ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของแต่ละโครงการและนำมาประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
เอพีไทยแลนด์ ช่วยเติมเต็มความหมายของชีวิต
เลือกเป็นเจ้าของโครงการบ้านจาก เอพีไทยแลนด์ เพื่อสร้างชีวิตดี ๆ บนพื้นที่ความสุขที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางเป็นส่วนตัว ทาวน์โฮมดีไซน์สวยหรือบ้านแฝดฟังก์ชันใหญ่ คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าเดินทางง่าย และโฮมออฟฟิศฟังก์ชันเจ๋งที่รองรับทุกธุรกิจ สามารถเลือกได้ตามต้องการ เพราะ “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
EMPOWER LIVING อยู่ .. เพื่อทุกความหมายของคุณ
